จัดการหนี้บัตรเครดิต: 5 เทคนิคปิดหนี้เร็วที่สุด

 

 

จัดการหนี้บัตรเครดิต

จัดการหนี้บัตรเครดิต: 5 เทคนิคปิดหนี้เร็วที่สุด

ในยุคปัจจุบัน บัตรเครดิตกลายเป็นเครื่องมือทางการเงินที่สะดวกสบายอย่างยิ่งในการใช้จ่าย แต่ในอีกด้านหนึ่ง มันก็เป็นเหมือนดาบสองคมที่หากใช้ไม่ระวัง ก็สามารถสร้าง "หนี้" ก้อนโตให้เราได้โดยไม่รู้ตัวครับ และหนี้บัตรเครดิตนี่แหละครับ ที่มักจะมีอัตราดอกเบี้ยสูงลิ่ว จนหลายคนรู้สึกท้อแท้และหาทางออกไม่เจอ

ถ้าคุณกำลังเผชิญกับภาระหนี้บัตรเครดิตที่ดูเหมือนจะไม่มีวันหมด วันนี้ผมมี 5 เทคนิคสำคัญ ที่จะช่วยให้ คุณผู้ชมทุกคนสามารถจัดการและ "ปิดหนี้บัตรเครดิต" ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ เพื่อให้คุณหลุดพ้นจากวงจรหนี้และกลับมามีอิสระทางการเงินอีกครั้งครับ

ทำไมหนี้บัตรเครดิตถึงอันตราย?

ก่อนที่เราจะไปดูเทคนิคการจัดการหนี้ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมหนี้บัตรเครดิตถึงเป็นสิ่งที่ต้องรีบจัดการให้เร็วที่สุด

·        ดอกเบี้ยสูงมาก: โดยทั่วไป อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตในประเทศไทยจะอยู่ที่ประมาณ 16-18% ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงกว่าสินเชื่อประเภทอื่นมาก หากค้างชำระนานๆ ดอกเบี้ยจะทบต้นอย่างรวดเร็ว

·        ค่าธรรมเนียมและค่าปรับ: นอกจากดอกเบี้ยแล้ว ยังมีค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน, ค่าปรับชำระล่าช้า, หรือค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่ทำให้ยอดหนี้พอกพูน

·        วงจรหนี้: หากชำระขั้นต่ำไปเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เงินที่จ่ายไปจะถูกหักเป็นดอกเบี้ยเสียส่วนใหญ่ ทำให้เงินต้นไม่ลดลง หรือลดลงช้ามาก จนติดอยู่ในวงจรหนี้ไม่มีวันจบสิ้น

·        เครดิตเสีย: การค้างชำระหรือชำระล่าช้าจะส่งผลเสียต่อประวัติเครดิตของคุณ ทำให้ยากต่อการขอสินเชื่ออื่นๆ ในอนาค

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ การจัดการหนี้บัตรเครดิตให้เร็วที่สุดจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งครับ

5 เทคนิคปิดหนี้บัตรเครดิตเร็วที่สุด

นี่คือ 5 กลยุทธ์ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที เพื่อเป้าหมายในการปิดหนี้บัตรเครดิตให้เร็วที่สุดครับ

1. หยุดสร้างหนี้เพิ่มทันที! (Cut the Credit Cards)

นี่คือขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดและห้ามมองข้ามเด็ดขาดครับ หากคุณยังคงใช้บัตรเครดิตอยู่และมีพฤติกรรมการใช้จ่ายเกินตัว วงจรหนี้จะไม่มีวันจบลง

·        เก็บบัตรเครดิตไว้ในที่ที่เข้าถึงยาก: อาจจะแช่แข็งไว้ในตู้เย็น (ในถุงซิปล็อก) หรือเก็บไว้ในลิ้นชักที่ล็อกกุญแจ และเก็บกุญแจไว้ให้ห่างตัว

·        งดใช้บัตรเครดิตทุกกรณี: ให้ใช้จ่ายด้วยเงินสดหรือบัตรเดบิตเท่านั้น จนกว่าจะเคลียร์หนี้หมด

·        หากจำเป็นจริงๆ อาจพิจารณา "ยกเลิกบัตร" ที่ไม่จำเป็น: แต่ต้องแน่ใจว่าคุณจะไม่เปิดใบใหม่มาแทน และควรชำระหนี้ของบัตรนั้นๆ ให้เรียบร้อยก่อน

·        เลิกผูกบัตรเครดิตกับแอปพลิเคชันหรือการชำระเงินอัตโนมัติ: เพื่อตัดช่องทางสร้างหนี้ใหม่

การหยุดสร้างหนี้เพิ่มเป็นเหมือนการ "หยุดเลือดไหล" ก่อนที่จะเริ่มรักษาบาดแผลครับ

2. ทำงบประมาณและ "กัดฟัน" ชำระให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

เมื่อไม่มีหนี้เพิ่มแล้ว ขั้นต่อไปคือการหาเงินมาปิดหนี้ให้ได้มากที่สุดครับ

·        ทำงบประมาณรายรับ-รายจ่ายอย่างละเอียด: จดทุกบาททุกสตางค์ที่เข้าและออก เพื่อดูว่าเงินของคุณหายไปไหน

·        ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นทิ้งทั้งหมด: งดทานข้าวนอกบ้าน, งดซื้อของฟุ่มเฟือย, งดกิจกรรมบันเทิงที่ไม่จำเป็น ทุกบาททุกสตางค์ที่ประหยัดได้ ให้เอาไปโปะหนี้

·        หารายได้เสริม: ลองมองหางานเสริมที่ทำได้ในช่วงเวลาว่าง เช่น ขายของออนไลน์, รับจ้างอิสระ, หรือใช้ความรู้ความสามารถที่คุณมีเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม

·        จัดลำดับความสำคัญ: ให้หนี้บัตรเครดิตเป็นเป้าหมายทางการเงินอันดับหนึ่งของคุณในตอนนี้ อะไรที่ไม่จำเป็นให้เลื่อนออกไปก่อน

ยิ่งคุณชำระเงินต้นได้มากเท่าไหร่ ดอกเบี้ยที่คุณต้องจ่ายก็จะลดลงเร็วเท่านั้นครับ

3. เลือกกลยุทธ์ปิดหนี้: Snowball หรือ Avalanche

มีสองกลยุทธ์ยอดนิยมในการจัดลำดับการชำระหนี้บัตรเครดิตเพิ่มเติมจากการชำระขั้นต่ำ ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีที่แตกต่างกันไปครับ

·        3.1 Debt Snowball (กองหิมะหนี้):

o   วิธี: ให้คุณชำระหนี้ขั้นต่ำของทุกบัตร และให้เอาเงินพิเศษทั้งหมดที่มีไป "โปะบัตรที่มีหนี้น้อยที่สุดก่อน" เมื่อบัตรนั้นหมด ให้เอาเงินที่คุณเคยจ่ายบัตรที่หมดแล้ว ไปโปะบัตรถัดไปที่มีหนี้น้อยที่สุด (เหมือนการปั้นกองหิมะให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ)

o   ข้อดี: สร้างกำลังใจได้เร็ว เพราะเห็นหนี้หมดไปทีละใบๆ เหมาะสำหรับคนต้องการกำลังใจและแรงผลักดัน

o   ข้อเสีย: อาจเสียดอกเบี้ยรวมมากกว่า เพราะไม่ได้เน้นปิดบัตรที่ดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน

·        3.2 Debt Avalanche (หิมะถล่มหนี้):

o   วิธี: ให้คุณชำระหนี้ขั้นต่ำของทุกบัตร และเอาเงินพิเศษทั้งหมดที่มีไป "โปะบัตรที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดก่อน" ไม่ว่าบัตรนั้นจะมีหนี้มากหรือน้อย เมื่อบัตรนั้นหมด ให้เอาเงินที่เคยจ่ายไปโปะบัตรถัดไปที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุด

o   ข้อดี: ช่วยประหยัดเงินค่าดอกเบี้ยรวมได้มากที่สุดในระยะยาว เพราะจัดการกับหนี้ที่แพงที่สุดก่อน

o   ข้อเสีย: อาจใช้เวลานานกว่าจะเห็นหนี้หมดไปสักใบแรก อาจทำให้ท้อได้ง่ายกว่า

คำแนะนำ: หากคุณต้องการประหยัดเงินค่าดอกเบี้ยรวมให้มากที่สุด ให้เลือก Debt Avalanche ครับ แต่ถ้าคุณต้องการกำลังใจและแรงผลักดันที่มาเร็วกว่า ให้เลือก Debt Snowball ครับ (แต่ควรเลือก Avalanche เป็นอันดับแรก)

4. พิจารณา "รวมหนี้" หรือ "รีไฟแนนซ์" (ถ้าทำได้)

หากคุณมีหนี้บัตรเครดิตหลายใบและดอกเบี้ยสูงมาก การรวมหนี้อาจเป็นทางออกที่ดี

·        รวมหนี้ (Debt Consolidation): คือการขอสินเชื่อก้อนใหม่ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า เพื่อนำมาปิดหนี้บัตรเครดิตทั้งหมดที่มีอยู่ ทำให้คุณเหลือหนี้เพียงก้อนเดียวที่ต้องผ่อนกับเจ้าหนี้รายเดียว ด้วยดอกเบี้ยที่ถูกลงและภาระผ่อนต่อเดือนที่ลดลง

o   ตัวอย่างสินเชื่อรวมหนี้: สินเชื่อส่วนบุคคล, สินเชื่อบ้านแลกเงิน (Home for Cash), หรือสินเชื่อสำหรับรวมหนี้โดยเฉพาะ

·        รีไฟแนนซ์ (Refinance): คล้ายกับการรวมหนี้ แต่เป็นการเปลี่ยนหนี้เดิมไปเป็นหนี้ใหม่กับสถาบันการเงินแห่งใหม่ ที่เสนอเงื่อนไขที่ดีกว่า (ดอกเบี้ยต่ำลง, ระยะเวลาผ่อนยาวขึ้น)

ข้อควรระวัง: การรวมหนี้ไม่ได้ทำให้หนี้หายไป แต่เป็นการปรับโครงสร้างหนี้ให้ดีขึ้น คุณต้องมีวินัยในการชำระหนี้ก้อนใหม่ และที่สำคัญ ห้ามสร้างหนี้บัตรเครดิตเพิ่มอีกเด็ดขาด หลังจากรวมหนี้แล้ว มิฉะนั้นคุณจะกลับมาเป็นหนี้หนักกว่าเดิม

5. เจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้ (อย่ากลัวที่จะคุย)

หากคุณประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนักจนไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดจริงๆ อย่าปล่อยทิ้งไว้ ให้รีบติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรเพื่อปรึกษาและเจรจาต่อรองหนี้ครับ

·        แจ้งปัญหาทางการเงินของคุณอย่างตรงไปตรงมา: อธิบายสถานการณ์ของคุณให้เจ้าหน้าที่ทราบ

·        ขอปรับโครงสร้างหนี้: เช่น ขอผ่อนชำระแบบลดต้นลดดอก, ขยายระยะเวลาผ่อน, หรือขอ Haircut (ขอส่วนลดหนี้ก้อนใหญ่ โดยจ่ายครั้งเดียวจบ)

·        แสดงความตั้งใจที่จะชำระหนี้: แม้จะจ่ายได้ไม่เต็มจำนวน แต่แสดงให้เห็นว่าคุณมีความพยายาม

การเจรจากับเจ้าหนี้เป็นสิ่งที่ควรทำก่อนที่หนี้จะกลายเป็นหนี้เสีย หรือถูกฟ้องร้องครับ ธนาคารส่วนใหญ่ก็อยากให้ลูกหนี้กลับมาจ่ายได้ครับ

บทสรุป: วินัยคือหัวใจสำคัญในการปลดหนี้บัตรเครดิต

   ครับ การจัดการหนี้บัตรเครดิตอาจดูเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยครับ สิ่งสำคัญที่สุดคือ "วินัย" และ "ความมุ่งมั่น"

การหยุดสร้างหนี้เพิ่ม การทำงบประมาณ การเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสม การพิจารณารวมหนี้ และการเจรจาต่อรอง ล้วนเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณก้าวผ่านวิกฤตหนี้บัตรเครดิตไปได้

เริ่มต้นวันนี้เลยครับ วางแผน จัดการ และลงมือทำอย่างจริงจัง ผมเชื่อว่า คุณผู้ชมทุกคนจะสามารถปิดหนี้บัตรเครดิตและกลับมามีอิสระทางการเงินได้อย่างแน่นอนครับ สู้ๆ ครับ!

    Choose :
  • OR
  • To comment

eBook ยอดนิยม