การใช้บ้านเป็นหลักประกันเงินกู้เพื่อการเกษียณ (Reverse
Mortgage)
สำหรับผู้สูงอายุหลายท่าน โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้มีเงินก้อนเกษียณมากนัก
แต่มีบ้านปลอดภาระเป็นของตัวเอง "การใช้บ้านเป็นหลักประกันเงินกู้เพื่อการเกษียณ" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "Reverse Mortgage (รีเวิร์ส มอร์ทเกจ)" ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในการสร้างกระแสเงินสดสำหรับใช้จ่ายในยามชรา
โดยไม่ต้องขายบ้านที่รักและคุ้นเคยไปครับ
วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจว่า "Reverse
Mortgage" คืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร มีข้อดีข้อเสีย
และเหมาะกับใคร เพื่อให้คุณผู้ชมทุกคนสามารถพิจารณาทางเลือกนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนการเงินในวัยเกษียณได้อย่างรอบคอบครับ
Reverse Mortgage (สินเชื่อที่อยู่อาศัยแบบย้อนกลับ) คืออะไร?
Reverse Mortgage คือ "สินเชื่อที่ธนาคารจ่ายเงินให้ผู้กู้เป็นรายเดือน
โดยมีบ้านของผู้กู้เป็นหลักประกัน" ครับ
โดยผู้กู้จะยังคงเป็นเจ้าของบ้านและอยู่อาศัยในบ้านนั้นได้ตลอดชีวิต และ "ไม่ต้องชำระคืนเงินกู้ตลอดชีวิต" จนกว่าผู้กู้เสียชีวิต
หรือย้ายออกจากบ้านอย่างถาวรครับ
หลักการทำงานของ Reverse Mortgage:
1.
คุณสมบัติผู้กู้: ต้องเป็นผู้สูงอายุ (เช่น 60 หรือ 65 ปีขึ้นไป) และเป็นเจ้าของบ้านที่ปลอดภาระหนี้
(หรือมีภาระหนี้เหลือน้อยมากจนสามารถนำเงินกู้ไปปิดได้)
2.
ประเมินมูลค่าบ้าน: ธนาคารจะประเมินมูลค่าบ้านของคุณ
3.
อนุมัติวงเงินกู้: ธนาคารจะอนุมัติวงเงินกู้สูงสุด (เช่น 50-70% ของมูลค่าบ้าน)
และคำนวณจำนวนเงินที่ผู้กู้จะได้รับเป็นรายเดือนไปตลอดชีวิต
หรือตามระยะเวลาที่กำหนด
4.
รับเงินรายเดือน: ผู้กู้จะได้รับเงินจากธนาคารเป็นรายเดือน
เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ
5.
กรรมสิทธิ์ในบ้าน: ผู้กู้ยังคงเป็นเจ้าของบ้านและสามารถอยู่อาศัยในบ้านนั้นได้ตามปกติ
6.
การชำระคืน: ผู้กู้ ไม่ต้องชำระคืนเงินกู้เลย จนกว่า:
o
ผู้กู้เสียชีวิตลง
o
ผู้กู้ย้ายออกจากบ้านอย่างถาวร
(เช่น ไปอยู่บ้านพักคนชรา หรือย้ายไปอยู่กับลูกหลาน)
o
ผู้กู้ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข (เช่น ไม่ดูแลรักษาบ้าน,
ไม่จ่ายภาษีที่ดิน)
7.
เมื่อสิ้นสุดสัญญา: ทายาทของผู้กู้ หรือผู้จัดการมรดก จะมีสิทธิ์เลือกดำเนินการได้ 2 ทาง:
o
ชำระคืนหนี้ทั้งหมด: ชำระคืนเงินต้นที่ได้รับไปทั้งหมด + ดอกเบี้ยสะสม ให้ธนาคาร
เพื่อคงกรรมสิทธิ์ในบ้านไว้
o
ให้ธนาคารยึดทรัพย์: ปล่อยให้ธนาคารขายบ้านเพื่อชำระหนี้
(หากมูลค่าบ้านที่ขายได้สูงกว่าหนี้ที่ค้าง ธนาคารจะคืนส่วนต่างให้ทายาท
หากต่ำกว่า ทายาทไม่ต้องรับผิดชอบส่วนที่ขาด)
ข้อดีของ Reverse Mortgage
1.
มีเงินใช้จ่ายหลังเกษียณ
โดยไม่ต้องขายบ้าน: เป็นแหล่งรายได้สำคัญสำหรับผู้สูงอายุที่มีบ้านเป็นทรัพย์สินหลักแต่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน
2.
ยังคงเป็นเจ้าของบ้าน: คุณยังสามารถอยู่อาศัยในบ้านที่คุณผูกพันได้ตลอดชีวิต
ไม่ต้องย้ายออกไปไหน
3.
ไม่ต้องชำระหนี้: ตลอดชีวิตของคุณ ไม่ต้องกังวลเรื่องการผ่อนชำระคืนเงินกู้รายเดือน
4.
ป้องกันความเสี่ยง: ช่วยให้ผู้สูงอายุมีเงินใช้จ่ายที่แน่นอน
ลดความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดที่ผันผวน
5.
ลดภาระลูกหลาน: ทำให้ผู้สูงอายุสามารถดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องพึ่งพิงเงินจากลูกหลาน
ข้อเสียและข้อควรพิจารณาของ Reverse Mortgage
1.
ดอกเบี้ยสะสม: ดอกเบี้ยจะถูกคิดสะสมไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีการชำระคืน
ทำให้หนี้เพิ่มขึ้นตลอดเวลา
2.
มูลค่าบ้านที่ทายาทจะได้รับลดลง: เมื่อผู้กู้เสียชีวิต
มูลค่าบ้านที่ทายาทจะได้รับเป็นมรดกจะลดลงตามจำนวนหนี้ที่ค้างอยู่กับธนาคาร
3.
วงเงินกู้ที่ได้รับอาจไม่สูงนัก: ธนาคารมักจะให้วงเงินกู้ไม่เกิน 50-70% ของมูลค่าบ้าน
และขึ้นอยู่กับอายุของผู้กู้ (อายุมาก วงเงินที่ได้รับต่อเดือนจะสูงขึ้น
เพราะระยะเวลาการจ่ายสั้นลง)
4.
ค่าธรรมเนียมต่างๆ: มีค่าธรรมเนียมการดำเนินการ, ค่าประเมินราคา,
ค่าประกัน ฯลฯ ที่อาจเกิดขึ้น
5.
จำกัดอายุผู้กู้: ส่วนใหญ่จะกำหนดอายุผู้กู้ขั้นต่ำ (เช่น 60 หรือ 65
ปี)
6.
ความเข้าใจของทายาท: ควรมีการพูดคุยกับทายาทให้เข้าใจถึงหลักการและผลกระทบของ Reverse
Mortgage เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
7.
ยังคงต้องจ่ายค่าบำรุงรักษาบ้านและภาษีที่ดิน: ผู้กู้ยังคงมีหน้าที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเหล่านี้
Reverse Mortgage เหมาะกับใคร?
·
ผู้สูงอายุที่มีบ้านปลอดภาระ: และต้องการเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แต่ไม่ต้องการขายบ้าน
·
ผู้สูงอายุที่ไม่มีทายาท: หรือมีทายาทแต่ยินยอมที่จะไม่รับบ้านเป็นมรดก
และอยากใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายอย่างสบาย
·
ผู้สูงอายุที่ต้องการสภาพคล่อง: แต่มีทรัพย์สินส่วนใหญ่อยู่ในรูปของอสังหาริมทรัพย์
ไม่เหมาะกับ:
·
ผู้ที่ต้องการเก็บบ้านไว้เป็นมรดกให้ลูกหลานโดยที่ไม่มีภาระหนี้
·
ผู้ที่สามารถหารายได้
หรือมีเงินบำนาญ/เงินออมเพียงพอสำหรับวัยเกษียณอยู่แล้ว
สถาบันการเงินที่ให้บริการในประเทศไทย
ปัจจุบันในประเทศไทย มีธนาคารที่ให้บริการ Reverse
Mortgage อยู่บ้าง เช่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
และธนาคารออมสิน
สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมจากธนาคารเหล่านี้ได้โดยตรงครับ
บทสรุป: Reverse Mortgage ทางเลือกสำหรับวัยเกษียณที่เฉพาะเจาะจง
"Reverse Mortgage" เป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีประโยชน์สำหรับผู้สูงอายุบางกลุ่มที่ต้องการสร้างกระแสเงินสดจากบ้านของตนเอง
โดยไม่ต้องขายบ้าน และยังคงได้อยู่อาศัยในบ้านนั้นไปตลอดชีวิตครับ
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเลือกใช้ Reverse Mortgage ควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงข้อดีข้อเสียทั้งหมด
รวมถึงผลกระทบต่อทายาทในอนาคตครับ หากคุณมีคุณสมบัติและต้องการใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างอิสระมากขึ้น
นี่อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับการวางแผนการเงินในวัยชราของคุณครับ!