กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ vs กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF): เลือกแบบไหนดีสำหรับอนาคต?

 

 

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ vs กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF): เลือกแบบไหนดีสำหรับอนาคต?

      ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้นเรื่อยๆ การวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณจึงเป็นสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เลยครับ สำหรับมนุษย์เงินเดือนหลายคนอาจคุ้นเคยกับ "กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ" ส่วนผู้ที่ทำงานอิสระอย่างคุณ  หรือผู้ที่ต้องการวางแผนเกษียณเพิ่มเติม อาจคุ้นกับ "กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)" ครับ

วันนี้เราจะมาเจาะลึกความแตกต่างระหว่าง "กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ vs กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF): เลือกแบบไหนดีสำหรับอนาคต?" เพื่อให้คุณผู้ชมทุกคนเข้าใจถึงจุดเด่น ข้อจำกัด และ

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund - PVD) คืออะไร?

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คือ สวัสดิการภาคสมัครใจ ที่นายจ้างและลูกจ้างร่วมกันจัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย เพื่อเป็นหลักประกันทางการเงินแก่ลูกจ้างเมื่อเกษียณอายุ, ลาออก, เสียชีวิต, หรือทุพพลภาพครับ

จุดเด่นของ PVD:

1.         นายจ้างร่วมสมทบ: นี่คือจุดเด่นที่สำคัญที่สุด! นายจ้างจะจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนให้คุณด้วย ทำให้เงินออมของคุณเติบโตเร็วกว่าการออมด้วยตัวเอง

2.         หักภาษี ณ ที่จ่าย: เงินส่วนของลูกจ้างที่สมทบเข้ากองทุน และผลประโยชน์ที่ได้รับจะได้รับการยกเว้นภาษี (ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด)

3.         สร้างวินัยการออม: มีการหักเงินสมทบจากเงินเดือนอัตโนมัติ ทำให้เกิดวินัยในการออมอย่างสม่ำเสมอ

4.         มีผู้จัดการกองทุนดูแล: เงินของคุณจะถูกนำไปลงทุนโดยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ

5.         เงินก้อนตอนเกษียณ: คุณจะได้รับเงินก้อนเมื่อเกษียณอายุ (ทั้งส่วนของลูกจ้าง, นายจ้าง, และผลประโยชน์จากการลงทุน)

ข้อจำกัดของ PVD:

·        สำหรับลูกจ้างบริษัทเอกชนเท่านั้น: ไม่เหมาะกับฟรีแลนซ์อย่างคุณ

·        เงื่อนไขการรับเงิน: การถอนเงินออกมาก่อนเกษียณอาจมีเงื่อนไขและอาจต้องเสียภาษีบางส่วน

·        ทางเลือกการลงทุนจำกัด: คุณอาจมีทางเลือกในการลงทุนน้อยกว่า RMF เพราะถูกจำกัดตามนโยบายของกองทุนที่คุณสังกัด

กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund - RMF) คืออะไร?

กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) คือ กองทุนรวมประเภทหนึ่ง ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาวสำหรับวัยเกษียณครับ โดยผู้ลงทุนสามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ด้วยตัวเอง และมีนโยบายลงทุนที่หลากหลายให้เลือก

จุดเด่นของ RMF:

1.         ลดหย่อนภาษีได้สูง: เบี้ยประกันสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับเงินออมเพื่อการเกษียณอื่นๆ (PVD, SSF, กบข., ประกันบำนาญ)

2.         ทางเลือกการลงทุนหลากหลาย: มี RMF ให้เลือกมากมาย ทั้งกองทุนหุ้น, ตราสารหนี้, อสังหาริมทรัพย์, สินค้าโภคภัณฑ์ ฯลฯ ทำให้คุณสามารถจัดพอร์ตลงทุนให้เหมาะกับความเสี่ยงและเป้าหมายของคุณ

3.         เหมาะกับทุกคน: ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือน, ฟรีแลนซ์, หรือเจ้าของกิจการ ก็สามารถลงทุน RMF ได้

4.         สร้างวินัยการออม: ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี (หรืออย่างน้อยปีเว้นปี) ทำให้มีวินัยในการออม

5.         ยืดหยุ่นในการปรับพอร์ต: สามารถสับเปลี่ยนกองทุน RMF ระหว่างบลจ. ได้ เพื่อปรับพอร์ตให้เข้ากับสถานการณ์ตลาด

ข้อจำกัดของ RMF:

·        เงื่อนไขการลงทุนและไถ่ถอนเข้มงวด: ต้องลงทุนต่อเนื่องไปจนถึงอายุ 55 ปีบริบูรณ์ และต้องลงทุนมาแล้วอย่างน้อย 5 ปี หากผิดเงื่อนไขจะต้องคืนภาษีและอาจถูกปรับ

·        ไม่มีเงินสมทบจากนายจ้าง: ต้องลงทุนด้วยเงินของตัวเองทั้งหมด

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ vs RMF: เลือกแบบไหนดีสำหรับอนาคต?

      การเลือกว่าจะเน้นไปที่ PVD หรือ RMF หรือทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับสถานะและเป้าหมายของคุณครับ

สำหรับ "มนุษย์เงินเดือน"

·        PVD คือสิ่งจำเป็นอันดับแรก: หากบริษัทของคุณมี PVD ควรอย่างยิ่งที่จะเข้าร่วมและสมทบเงินให้เต็มที่ ตามนโยบายของบริษัท เพราะนี่คือเงินที่นายจ้างสมทบให้ ถือเป็น "เงินฟรี" ที่คุณควรได้รับ

·        RMF คือส่วนเสริมที่ทรงพลัง: หากคุณเข้าร่วม PVD แล้ว แต่ยังต้องการออมเพิ่มเพื่อเกษียณ และต้องการสิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม รวมถึงมีทางเลือกการลงทุนที่หลากหลาย RMF คือตัวเลือกที่ดีเยี่ยม ในการเติมเต็มส่วนที่ขาด

สำหรับ "ฟรีแลนซ์" หรือ "เจ้าของกิจการ" (เช่น คุณ )

·        PVD ไม่ใช่ทางเลือก: เนื่องจากคุณไม่มีนายจ้างที่สมทบเงินให้

·        RMF คือทางเลือกหลักที่สำคัญที่สุด:

o   เพื่อการลดหย่อนภาษี: RMF เป็นเครื่องมือลดหย่อนภาษีที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ไม่มี PVD

o   เพื่อการวางแผนเกษียณ: เป็นช่องทางสำคัญในการสร้างเงินออมสำหรับวัยเกษียณของคุณ

o   เพื่อการลงทุนที่หลากหลาย: คุณสามารถเลือกนโยบายการลงทุนที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้ และปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์

ถ้าคุณมีทั้ง PVD และ RMF (สำหรับมนุษย์เงินเดือน)

คุณสามารถมีได้ทั้งคู่ครับ และการมีทั้งสองอย่างจะยิ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แผนเกษียณของคุณ:

·        PVD: เป็นรากฐานสำคัญที่นายจ้างช่วยสมทบ

·        RMF: เป็นส่วนเสริมที่ช่วยให้คุณลดหย่อนภาษีได้เพิ่มขึ้น และมีอิสระในการเลือกนโยบายการลงทุนที่ตรงใจมากขึ้น

บทสรุป: วางแผนเกษียณอย่างชาญฉลาด

      ไม่ว่าคุณจะเป็นมนุษย์เงินเดือน หรือฟรีแลนซ์อย่างคุณ การวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรละเลยครับ

·        ถ้าเป็นพนักงานบริษัท: เข้าร่วม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) ให้เต็มที่ก่อน แล้วค่อยพิจารณา RMF เพิ่มเติมหากต้องการลดหย่อนภาษีและออมเพิ่ม

·        ถ้าเป็นฟรีแลนซ์/เจ้าของกิจการ: RMF คือหัวใจสำคัญในการวางแผนเกษียณของคุณ เพราะเป็นทั้งเครื่องมือการออม การลงทุน และการลดหย่อนภาษี

เริ่มต้นวางแผนตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้คุณมีเงินใช้ในวัยเกษียณอย่างมีความสุขและไม่เป็นภาระใครครับ!

    Choose :
  • OR
  • To comment

eBook ยอดนิยม