ความกลัวพลาด (FOMO) กับการลงทุน: รับมืออย่างไร?

 

 

ความกลัวพลาด (FOMO)

ความกลัวพลาด (FOMO) กับการลงทุน: รับมืออย่างไร?

    ในยุคดิจิทัลที่ข่าวสารไหลบ่าและแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเฟื่องฟู มีปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาอย่างหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจทางการเงินของหลายคน โดยเฉพาะในการลงทุน นั่นคือ "ความกลัวพลาด (FOMO - Fear of Missing Out)" ครับ

คุณคงเคยเห็นข่าวคนรวยจากการลงทุนในคริปโตฯ, หุ้นบางตัวที่พุ่งขึ้นแบบจรวด, หรือ NFT ที่ขายได้ในราคาแพงลิบลิ่ว และอาจมีความรู้สึกว่า "ถ้าฉันไม่ซื้อตอนนี้ ฉันจะพลาดโอกาสทองไปหรือเปล่า?" ความรู้สึกนี้แหละครับคือ FOMO ตัวการที่ทำให้เราตัดสินใจลงทุนโดยใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลครับ

วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึง "ความกลัวพลาด (FOMO) กับการลงทุน: รับมืออย่างไร?" เพื่อให้  คุณผู้ชมทุกคนเข้าใจถึงกลไกของ FOMO และมีวิธีรับมือกับมันอย่างชาญฉลาด เพื่อปกป้องเงินลงทุนของคุณครับ

FOMO (Fear of Missing Out) คืออะไร?

FOMO (Fear of Missing Out) คือ ความรู้สึกวิตกกังวลหรือความกลัวว่าเราจะพลาดโอกาสดีๆ บางอย่างไป ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ทางสังคม, ข้อมูลข่าวสาร, หรือในบริบทของการเงินก็คือ "โอกาสในการลงทุนที่จะสร้างผลตอบแทนมหาศาล" ครับ

ความรู้สึกนี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อเราเห็นคนอื่นได้รับผลประโยชน์หรือประสบความสำเร็จจากการกระทำบางอย่าง (เช่น ซื้อหุ้นแล้วรวย) ทำให้เรารู้สึกว่าถ้าเราไม่ทำตาม เราจะกลายเป็นคนเดียวที่ตกขบวน หรือเสียโอกาสนั้นไปครับ

FOMO กับการลงทุน: หลุมพรางที่ต้องระวัง

เมื่อ FOMO เข้ามาครอบงำการตัดสินใจลงทุน มักจะนำไปสู่ข้อผิดพลาดเหล่านี้:

1.         ลงทุนตามกระแส/ข่าวลือ: เห็นคนอื่นพูดถึงหุ้นตัวไหน หรือสินทรัพย์อะไรกำลังขึ้นแรง ก็รีบเข้าไปซื้อตาม โดยไม่ได้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด

2.         ซื้อที่ราคาสูงสุด (Buying at the Top): เข้าไปซื้อตอนที่ราคาขึ้นไปสูงแล้ว และกำลังจะปรับตัวลง ทำให้ติดดอย หรือขาดทุนหนัก

3.         ลงทุนโดยไม่เข้าใจ: ซื้อสินทรัพย์ที่ไม่เคยศึกษามาก่อน เช่น คริปโตฯ บางสกุลที่ได้ยินชื่อครั้งแรก หรือโปรเจกต์ NFT ที่ไม่เข้าใจพื้นฐาน

4.         ใช้เงินเกินตัว/ไม่กระจายความเสี่ยง: ทุ่มเงินลงทุนไปกับสินทรัพย์กระแสเดียวทั้งหมด โดยไม่คำนึงถึงการกระจายความเสี่ยง เพราะกลัวพลาดโอกาส

5.         ตัดสินใจอย่างเร่งรีบ: ไม่มีการวางแผน, ไม่มีกฎเกณฑ์, และไม่เผื่อเวลาให้ตัวเองได้คิดวิเคราะห์อย่างรอบคอบ

สัญญาณเตือนว่าคุณกำลังโดน FOMO เล่นงาน

·        คุณรู้สึกกระวนกระวายใจหรือเสียดายเมื่อเห็นคนอื่นพูดถึงกำไรจากการลงทุน

·        คุณคิดว่า "ถ้าฉันไม่ซื้อตอนนี้ ฉันจะเสียโอกาสไปตลอดกาล"

·        คุณเริ่มมองข้ามปัจจัยพื้นฐาน, ความเสี่ยง, หรือคำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ

·        คุณรู้สึกกดดันที่จะต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว โดยไม่คิดทบทวน

·        คุณรู้สึกเหมือนกำลัง "ตามหลัง" คนอื่น

วิธีรับมือกับ FOMO ในการลงทุน

การรับมือกับ FOMO คือการฝึกวินัยทางอารมณ์และจิตใจครับ

1. กลับมาที่เป้าหมายและแผนการลงทุนของตัวเอง

·        มีแผนที่ชัดเจน: ก่อนลงทุนอะไร ให้กำหนดเป้าหมายการลงทุน, กลยุทธ์, สินทรัพย์ที่สนใจ, และความเสี่ยงที่รับได้ไว้ล่วงหน้า

·        ยึดมั่นในแผน: เมื่อ FOMO เข้ามา ให้เตือนตัวเองว่าคุณมีแผนอยู่แล้ว และการกระโดดเข้าไปลงทุนตามกระแสอาจทำให้แผนของคุณพัง

·        ประเมินความเสี่ยงอย่างจริงจัง: ถามตัวเองว่า "สินทรัพย์นี้เข้ากับเป้าหมายและความเสี่ยงที่ฉันรับได้หรือไม่?" "ฉันเข้าใจมันดีพอแล้วหรือยัง?"

2. หยุด! หายใจลึกๆ และใช้เวลาคิด

·        ชะลอการตัดสินใจ: อย่ารีบร้อน ให้เวลาตัวเองในการหาข้อมูลเพิ่มเติม, คิดวิเคราะห์, และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

·        ทำความเข้าใจ "ทำไม": ถามตัวเองว่า "ทำไมฉันถึงอยากลงทุนในสิ่งนี้? เพราะพื้นฐานดี หรือเพราะคนอื่นเขาซื้อกัน?"

·        แยกอารมณ์ออกจากเหตุผล: ตระหนักว่าความกลัวพลาดเป็นเรื่องของอารมณ์ และพยายามใช้เหตุผลนำการตัดสินใจ

3. ศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน และไม่เชื่อข่าวลือ

·        หาข้อมูลด้วยตัวเอง: อย่าเชื่อเพียงแค่ข่าวลือในโซเชียลมีเดีย หรือคำบอกเล่าของคนอื่น

·        ตรวจสอบแหล่งที่มา: ข้อมูลที่คุณได้รับมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือหรือไม่

·        มองหาข้อมูลที่เป็นกลาง/ข้อมูลด้านลบ: ลองหาข้อมูลที่พูดถึงข้อเสีย หรือความเสี่ยงของสินทรัพย์นั้นๆ ด้วย

4. สร้างวินัยในการลงทุน

·        กำหนดกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน: เช่น กำหนดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภท, กำหนดจุดตัดขาดทุน (Stop Loss), หรือจุดทำกำไร (Take Profit)

·        ลงทุนแบบ DCA (Dollar-Cost Averaging): ทยอยลงทุนด้วยเงินจำนวนเท่าๆ กันอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะราคาขึ้นหรือลง ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนและตัดอารมณ์เรื่อง FOMO ออกไปได้

·        กระจายความเสี่ยง: ไม่นำเงินทั้งหมดไปลงทุนในสินทรัพย์เดียว หรือสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เพราะหากพลาดก็จะไม่เจ็บหนัก

5. จำกัดการรับข้อมูลข่าวสาร (Detox Digital)

·        ลดเวลาบนโซเชียลมีเดีย: แพลตฟอร์มเหล่านี้มักเป็นตัวกระตุ้น FOMO ได้ดีที่สุด

·        เลือกช่องทางข้อมูลที่น่าเชื่อถือ: ติดตามข่าวสารจากแหล่งข้อมูลทางการเงินที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือเท่านั้น

·        โฟกัสที่การลงทุนของตัวเอง: เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น หรือสนใจเรื่องของคนอื่นมากเกินไป

บทสรุป: ควบคุมใจ ได้คุมเงิน

    "ความกลัวพลาด (FOMO)" เป็นอารมณ์ที่ทรงพลังและสามารถทำให้เราตัดสินใจทางการเงินผิดพลาดได้ง่ายๆ ครับ

แต่ด้วยการ มีสติ, มีวินัย, และมีแผนการลงทุนที่ชัดเจน คุณจะสามารถรับมือกับมันได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ จงเชื่อมั่นในแผนการของตัวเอง ศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ และอย่าให้อารมณ์มาบงการการตัดสินใจทางการเงินของคุณครับ เพื่อให้คุณลงทุนได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนครับ!

    Choose :
  • OR
  • To comment

eBook ยอดนิยม