อารมณ์กับการตัดสินใจทางการเงิน: ควบคุมอย่างไร?

 

 


อารมณ์กับการตัดสินใจทางการเงิน: ควบคุมอย่างไร?

คุณเคยไหมครับที่ซื้อหุ้นเพราะเห็นเพื่อนบอกว่าดี แล้วสุดท้ายติดดอย? หรือตัดสินใจซื้อของราคาแพงเพราะอยากได้ทันที โดยไม่คิดถึงผลกระทบทางการเงินในระยะยาว? แล้วมาเสียใจทีหลัง?

การตัดสินใจเหล่านี้บ่อยครั้งไม่ได้มาจากเหตุผลที่รอบคอบ แต่มาจาก "อารมณ์" ครับ ในโลกของการเงิน อารมณ์เป็นพลังที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ มันสามารถบงการการตัดสินใจของเราได้ ตั้งแต่การซื้อของเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงการลงทุนก้อนใหญ่ๆ และมักจะนำพาเราไปสู่ความผิดพลาดทางการเงิน

วันนี้เราจะมาเจาะลึกความสัมพันธ์ระหว่าง อารมณ์กับการตัดสินใจทางการเงิน ครับ ทำไมอารมณ์ถึงมีอิทธิพลมากขนาดนั้น และที่สำคัญที่สุดคือ เราจะเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์เหล่านี้ได้อย่างไร เพื่อให้ทุกการตัดสินใจของ คุณผู้ชมเป็นไปอย่างมีเหตุผลและนำไปสู่ความมั่นคงทางการเงินในที่สุด

1. อารมณ์พื้นฐานที่ส่งผลต่อการเงิน

มีอารมณ์หลักๆ อยู่ไม่กี่อย่างครับที่มักจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจเรื่องเงินของเรา:

1.1 ความโลภ (Greed):

·        อาการ: เมื่อเห็นโอกาสที่จะได้เงินเยอะๆ อย่างรวดเร็ว หรือเห็นคนอื่นทำกำไรมหาศาล ก็จะเกิดความรู้สึกอยากได้ตาม จนอาจยอมรับความเสี่ยงที่สูงเกินไป

·        ผลกระทบ: ทำให้ตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงโดยไม่ศึกษาให้ดี, เข้าซื้อสินทรัพย์ที่ราคาสูงเกินไปในช่วงฟองสบู่, หรือตกเป็นเหยื่อของแชร์ลูกโซ่ที่อ้างผลตอบแทนสูงผิดปกติ

1.2 ความกลัว (Fear):

·        อาการ: ตรงกันข้ามกับความโลภครับ เมื่อเห็นตลาดตกหนัก หรือมีข่าวร้าย ก็จะเกิดความรู้สึกตื่นตระหนก วิตกกังวล กลัวว่าจะสูญเสียเงินทั้งหมดไป

·        ผลกระทบ: ทำให้ตัดสินใจขายสินทรัพย์ดีๆ ออกไปในช่วงที่ตลาดตกต่ำ (Panic Sell), ไม่กล้าลงทุนแม้ในยามที่ตลาดมีโอกาส, หรือเก็บเงินสดไว้เฉยๆ ไม่ยอมให้เงินทำงาน

1.3 ความหวัง (Hope):

·        อาการ: มีความหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้น แม้จะมีสัญญาณที่ไม่ดีปรากฏออกมาก็ตาม หรือหวังว่าหุ้นที่กำลังขาดทุนจะกลับมาเป็นกำไร

·        ผลกระทบ: ทำให้ถือหุ้นที่ขาดทุนต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่ยอมตัดขาดทุน, ไม่กล้าตัดสินใจที่ยากลำบาก เพราะหวังว่าปัญหามันจะหายไปเอง

1.4 ความเสียใจ/เสียดาย (Regret/FOMO - Fear Of Missing Out):

·        อาการ: ความรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ทำอะไรบางอย่างในอดีต (เช่น ไม่ได้ซื้อหุ้นตัวนั้นตั้งแต่ตอนนั้น) หรือกลัวว่าจะพลาดโอกาสดีๆ ในอนาคต (FOMO)

·        ผลกระทบ: ทำให้ตัดสินใจลงทุนตามกระแสโดยขาดการไตร่ตรอง, ซื้อสินทรัพย์ในราคาที่แพงเกินไป, หรือทำตามคนอื่นโดยไม่มีหลักการ

2. ทำไมอารมณ์ถึงมีอิทธิพลต่อเรามาก?

สมองของมนุษย์มีส่วนที่เรียกว่า Amygdala (อะมิกดาลา) ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมอารมณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความกลัวและความกังวล เมื่อเราเผชิญกับสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเงิน โดยเฉพาะเมื่อมีความเสี่ยงเข้ามาเกี่ยวข้อง อะมิกดาลาจะทำงานอย่างรวดเร็ว ทำให้เราตัดสินใจด้วยอารมณ์ก่อนที่สมองส่วนเหตุผล (Prefrontal Cortex) จะได้มีโอกาสประมวลผลข้อมูลอย่างถี่ถ้วน

การตอบสนองแบบ "สู้หรือหนี" (Fight or Flight) ซึ่งเป็นกลไกเอาชีวิตรอดของมนึกษย์ในยุคดึกดำบรรพ์ ก็ยังคงส่งผลต่อการตัดสินใจทางการเงินในปัจจุบันครับ เมื่อเจอภาวะตลาดผันผวน เราอาจเลือก "สู้" ด้วยการไล่ซื้อสินทรัพย์ราคาแพงด้วยความโลภ หรือ "หนี" ด้วยการเทขายสินทรัพย์ออกไปทั้งหมดด้วยความกลัวครับ

3. สัญญาณเตือนว่าอารมณ์กำลังเข้าครอบงำ

ก่อนจะควบคุมอารมณ์ได้ เราต้องรู้ก่อนว่าอารมณ์กำลังเข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจของเรา ลองสังเกตตัวเองนะครับว่ามีอาการเหล่านี้บ้างไหม:

·        รู้สึกใจเต้นแรง หรือตื่นเต้นผิดปกติ เมื่อเห็นราคาหุ้นพุ่งขึ้น หรือลดลงอย่างรวดเร็ว

·        ตัดสินใจแบบฉับพลัน โดยไม่ใช้เวลาคิดวิเคราะห์อย่างรอบคอบ

·        ใช้คำพูดที่แสดงถึงอารมณ์มากกว่าเหตุผล เช่น "ต้องรีบซื้อตอนนี้แหละ!" หรือ "ต้องรีบขายทิ้งก่อนที่จะหมดตัว!"

·        ไม่สามารถนอนหลับได้ หรือคิดวนเวียนอยู่กับเรื่องการเงิน

·        เริ่มละเลยแผนการลงทุน ที่วางไว้ และทำตามกระแสหรือคำแนะนำของคนอื่นอย่างง่ายดาย

4. วิธีควบคุมอารมณ์ในการตัดสินใจทางการเงิน

การควบคุมอารมณ์ไม่ได้หมายถึงการปราศจากอารมณ์ แต่คือการ "รู้เท่าทัน" และ "จัดการ" กับมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือเคล็ดลับที่จะช่วยให้ คุณผู้ชมตัดสินใจเรื่องเงินด้วยเหตุผลมากขึ้นครับ:

4.1 สร้างแผนการลงทุนที่ชัดเจนและยึดมั่นกับวินัย:

·        มีแผนก่อนเริ่ม: ก่อนจะลงทุนหรือทำธุรกรรมทางการเงินใดๆ ให้สร้างแผนที่ชัดเจน กำหนดเป้าหมาย, ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้, และกลยุทธ์ที่ใช้

·        ยึดมั่นกับวินัย: เมื่อมีแผนแล้ว ให้ยึดมั่นกับมันอย่างเคร่งครัด อย่าปล่อยให้อารมณ์ชั่ววูบมาเปลี่ยนแปลงแผนที่คิดมาอย่างดีแล้ว

4.2 ให้เวลาตัวเองในการตัดสินใจ:

·        อย่ารีบด่วนสรุป: เมื่อเจอสถานการณ์ที่กระตุ้นอารมณ์ เช่น เห็นหุ้นวิ่งแรง หรือตกหนัก ให้หยุดพัก หายใจเข้าลึกๆ และให้เวลาตัวเองคิดวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจ

·        หลีกเลี่ยงการตัดสินใจในช่วงอารมณ์พลุ่งพล่าน: ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ดีใจสุดขีด โกรธจัด หรือเสียใจอย่างรุนแรง เพราะช่วงเวลาเหล่านั้นเป็นช่วงที่สมองส่วนอารมณ์ทำงานอย่างเต็มที่

4.3 ศึกษาและทำความเข้าใจพฤติกรรมการเงินของตัวเอง:

·        บันทึกการตัดสินใจ: ลองจดบันทึกการตัดสินใจทางการเงินที่สำคัญของคุณ และบันทึกว่าอารมณ์ของคุณในขณะนั้นเป็นอย่างไร คุณจะเริ่มเห็นแบบแผนว่าอารมณ์แบบไหนที่มักนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด

·        เรียนรู้จากความผิดพลาด: ทุกการตัดสินใจที่ผิดพลาดคือบทเรียน จงเรียนรู้จากมัน และนำมาปรับปรุงพฤติกรรมในอนาคต

4.4 จำกัดการรับรู้ข่าวสารที่กระตุ้นอารมณ์:

·        เลือกแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ: หลีกเลี่ยงการติดตามข่าวสารจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือกลุ่มสนทนาที่เน้นการปั่นกระแส เพราะข้อมูลเหล่านั้นมักจะออกแบบมาเพื่อกระตุ้นอารมณ์มากกว่าให้ข้อมูลที่เป็นกลาง

·        จำกัดเวลาในการติดตามข่าวสาร: ไม่จำเป็นต้องเฝ้าหน้าจอหรือติดตามข่าวสารตลอดเวลา เพราะข้อมูลที่มากเกินไปและรวดเร็ว อาจทำให้คุณรู้สึกตื่นตระหนกหรือพลาดโอกาสได้ง่ายขึ้น

4.5 ใช้เทคนิคที่ลดผลกระทบจากอารมณ์:

·        Dollar-Cost Averaging (DCA): การทยอยลงทุนด้วยเงินจำนวนเท่ากันเป็นงวดๆ อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความจำเป็นในการจับจังหวะตลาด และทำให้คุณไม่ต้องกังวลว่าพลาดโอกาสในช่วงที่ราคาต่ำสุด

·        ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) และจุดทำกำไร (Take Profit): การกำหนดจุดซื้อ จุดขายล่วงหน้า จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ตามแผน ไม่ใช่อารมณ์

·        กระจายความเสี่ยง (Diversification): การไม่ทุ่มเงินทั้งหมดไปที่สินทรัพย์เดียวจะช่วยลดความกังวลและความผันผวนของพอร์ตโดยรวม

4.6 ฝึกสติและการรับรู้ปัจจุบันขณะ:

·        การทำสมาธิ (Meditation): การฝึกสมาธิเพียงไม่กี่นาทีต่อวันจะช่วยให้คุณมีสติ รู้เท่าทันความคิดและอารมณ์ของตัวเองได้ดีขึ้น ทำให้คุณไม่ตกเป็นทาสของอารมณ์

·        การหายใจลึกๆ: เมื่อรู้สึกว่าอารมณ์กำลังพลุ่งพล่าน ลองหายใจเข้าลึกๆ และหายใจออกช้าๆ จะช่วยให้จิตใจสงบลงและคิดได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น

บทสรุป: อารมณ์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ไม่ควรบงการการเงิน

อารมณ์เป็นส่วนหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในชีวิตของเราครับ และมันก็มีผลต่อการตัดสินใจทางการเงินอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การที่เราเข้าใจและเรียนรู้ที่จะควบคุมมันได้ จะทำให้เราเป็นนักลงทุนและผู้บริหารเงินที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

จำไว้ว่า "การควบคุมตัวเอง" คือหนึ่งในทักษะที่สำคัญที่สุดในการสร้างความมั่งคั่งครับ เมื่อคุณสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ คุณก็จะควบคุมการเงินและกำหนดทิศทางชีวิตของคุณเองได้

ขอให้ คุณผู้ชมทุกคนมีสติในการตัดสินใจทางการเงิน และสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนนะครับ

    Choose :
  • OR
  • To comment

eBook ยอดนิยม