เริ่มต้นวางแผนเกษียณตอนไหนดีที่สุด? เริ่มต้นก่อนได้เปรียบกว่า

 

 

วางแผนเกษียณ

 เริ่มต้นวางแผนเกษียณตอนไหนดีที่สุด?

คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการวางแผนเกษียณอายุคงหนีไม่พ้นคำถามที่ว่า "เริ่มต้นวางแผนเกษียณตอนไหนดีที่สุด?" หลายคนอาจคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของคนใกล้เกษียณ หรือคนที่อายุมากแล้วค่อยคิดก็ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว คำตอบคือ "ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดีที่สุด!" ครับ

วันนี้เราจะมาดูกันว่าทำไมการเริ่มต้นวางแผนเกษียณตั้งแต่อายุยังน้อยถึงเป็นสิ่งสำคัญ และในฐานะฟรีแลนซ์ยุคใหม่ ควรเริ่มต้นวางแผนอย่างไร เพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงและสบายใจครับ

ทำไมต้อง "เริ่มเร็ว" ในการวางแผนเกษียณ?

หลักการสำคัญที่ทำให้การเริ่มต้นเร็วได้เปรียบอย่างมหาศาล คือ "พลังของดอกเบี้ยทบต้น (Compounding Interest)" ครับ

ตัวอย่างง่ายๆ ของพลังดอกเบี้ยทบต้น:

สมมติ    ลงทุนเดือนละ 3,000 บาท ได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 7% ต่อปี (ก่อนหักภาษี)

·        เริ่มตอนอายุ 25 ปี: ลงทุน 3,000 บาท/เดือน ไปเรื่อยๆ จนถึงอายุ 60 ปี (35 ปี)

o   เงินลงทุนรวม: 3,000×12×35=1,260,000 บาท

o   เงินปลายทางที่อายุ 60 ปี: ประมาณ 5.5 ล้านบาท

·        เริ่มตอนอายุ 35 ปี: ลงทุน 3,000 บาท/เดือน ไปเรื่อยๆ จนถึงอายุ 60 ปี (25 ปี)

o   เงินลงทุนรวม: 3,000×12×25=900,000 บาท

o   เงินปลายทางที่อายุ 60 ปี: ประมาณ 2.5 ล้านบาท

·        เริ่มตอนอายุ 45 ปี: ลงทุน 3,000 บาท/เดือน ไปเรื่อยๆ จนถึงอายุ 60 ปี (15 ปี)

o   เงินลงทุนรวม: 3,000×12×15=540,000 บาท

o   เงินปลายทางที่อายุ 60 ปี: ประมาณ 9 แสนบาท

จะเห็นได้ว่า การเริ่มเร็วเพียง 10 ปี (จาก 35 ไป 25) ทำให้เงินปลายทางเพิ่มขึ้นถึง 3 ล้านบาท โดยที่จ่ายเงินลงทุนเท่ากันทุกเดือน! นี่คือพลังของเวลาที่ทำให้เงินงอกเงยแบบทวีคูณครับ

ดังนั้น คำตอบคือ: "เริ่มต้นทันทีที่คุณเริ่มมีรายได้" หรือ "วันนี้" คือเวลาที่ดีที่สุดครับ!

จุดเริ่มต้นการวางแผนเกษียณในแต่ละช่วงอายุ

แม้ว่าการเริ่มต้นเร็วที่สุดจะดีที่สุด แต่ก็ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะเริ่มต้นครับ ลองมาดูกันว่าในแต่ละช่วงวัย คุณควรเน้นอะไรบ้าง:

1. วัยเริ่มต้นทำงาน (อายุ 20 - 30 ต้นๆ)

·        จุดเน้น: สร้างนิสัยการออมและการลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆ ใช้พลังของดอกเบี้ยทบต้นให้เต็มที่

·        สิ่งที่ควรทำ:

o   ออมก่อนใช้: กันเงินออมไว้เป็นสัดส่วน (เช่น 10-15% ของรายได้) ทันทีที่เงินเดือนเข้า

o   ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสูงได้: เนื่องจากยังมีเวลาลงทุนยาวนาน หากเกิดความผันผวนก็ยังมีเวลาให้ฟื้นตัวได้ เช่น ลงทุนใน กองทุนรวมหุ้นไทย/ต่างประเทศ, หุ้นรายตัว, RMF/SSF ที่เน้นหุ้น

o   ประกันสังคม: เริ่มส่งเงินสมทบประกันสังคมต่อเนื่อง (สำหรับพนักงานประจำ มาตรา 33 หรือฟรีแลนซ์ มาตรา 39/40)

o   กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ถ้ามี): สะสมเงินให้เต็มที่ตามเพดานสูงสุดที่ทำได้ (สำหรับพนักงานประจำ)

o   สร้างรายได้เสริม: ในฐานะฟรีแลนซ์ มีข้อได้เปรียบตรงนี้ สามารถสร้างรายได้หลายทางเพื่อเพิ่มเงินออมและลงทุน

2. วัยสร้างตัวและสร้างครอบครัว (อายุ 30 กลางๆ - 40 กลางๆ)

·        จุดเน้น: เพิ่มเงินออม/ลงทุนให้มากขึ้น ควบคู่กับการสร้างความมั่นคงให้ครอบครัว

·        สิ่งที่ควรทำ:

o   ทบทวนแผน: เมื่อรายได้มากขึ้น หรือมีภาระเพิ่มขึ้น (มีครอบครัว, มีลูก, ผ่อนบ้าน) ให้ทบทวนเป้าหมายเกษียณและปรับแผนการออม/ลงทุน

o   พิจารณาประกันชีวิต/บำนาญ: เพื่อสร้างหลักประกันให้ครอบครัว และสร้างกระแสเงินสดในวัยเกษียณ

o   คงการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง-ปานกลาง: ยังคงมีเวลาให้เงินเติบโต

o   บริหารหนี้สิน: ลดหนี้ที่ไม่จำเป็น หรือจัดการหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง เช่น หนี้บัตรเครดิต

3. วัยใกล้เกษียณ (อายุ 40 ปลายๆ - 50 กลางๆ)

·        จุดเน้น: เพิ่มเงินออมให้หนักขึ้นอย่างจริงจัง และเริ่มปรับพอร์ตลงทุนให้มีความเสี่ยงต่ำลง

·        สิ่งที่ควรทำ:

o   เร่งออม/ลงทุน: นี่คือโอกาสสุดท้ายที่จะเร่งเก็บเงินให้ได้ตามเป้าหมาย ลองพิจารณาเพิ่มสัดส่วนการออมหรือเพิ่มเงินลงทุนใน RMF/SSF ให้เต็มที่ (เพื่อลดหย่อนภาษี)

o   ปรับพอร์ตลดความเสี่ยง: ค่อยๆ ทยอยสับเปลี่ยนกองทุน หรือสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง ไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำลง เช่น ตราสารหนี้, กองทุนตลาดเงิน, อสังหาริมทรัพย์ที่สร้างกระแสเงินสด เพื่อรักษามูลค่าเงินต้น

o   ประเมินสุขภาพและค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์: เริ่มศึกษาประกันสุขภาพสำหรับวัยเกษียณ หรือเตรียมเงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายทางการแพทย์

o   ตรวจสอบสิทธิ์ประกันสังคม/กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ: ตรวจสอบว่าจำนวนปีที่ส่งเงินสมทบ/อายุงานครบตามเงื่อนไขการได้รับบำนาญหรือไม่

4. วัยเตรียมเกษียณ (อายุ 55 ปีขึ้นไป)

·        จุดเน้น: จัดการเงินให้พร้อมใช้, ศึกษาการใช้ชีวิตหลังเกษียณ

·        สิ่งที่ควรทำ:

o   ทบทวนแผนการเงินขั้นสุดท้าย: ตรวจสอบเงินก้อนและรายได้ที่จะมีในวัยเกษียณ ว่าเพียงพอตามที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่

o   วางแผนการใช้เงินหลังเกษียณ: จะถอนเงินอย่างไร, จะลงทุนส่วนที่เหลืออย่างไรให้ยังคงงอกเงย

o   ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากไม่แน่ใจ ควรปรึกษานักวางแผนการเงิน

o   เตรียมความพร้อมด้านสุขภาพและจิตใจ: การเกษียณไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่เป็นเรื่องของการใช้ชีวิต

สำหรับ  "ฟรีแลนซ์" เริ่มต้นอย่างไรดี?

    มีข้อได้เปรียบที่สามารถควบคุมรายได้และเวลาได้เอง ดังนั้นการวางแผนเกษียณยิ่งสำคัญ:

1.         ไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/บำนาญจากนายจ้าง: คุณต้องสร้าง "กองทุนเกษียณ" ของตัวเองอย่างจริงจัง

2.         ใช้ RMF/SSF ให้เต็มที่: นี่คือเครื่องมือลดหย่อนภาษีและสร้างวินัยการออมที่ดีเยี่ยมสำหรับฟรีแลนซ์

3.         พิจารณาประกันชีวิตแบบบำนาญ: เพื่อสร้างกระแสเงินสดที่แน่นอนในวัยเกษียณ

4.         ลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย: หุ้น, กองทุนรวม, อสังหาริมทรัพย์ เพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทน

5.         สร้าง Passive Income: การขายภาพ Stockphoto, E-book, รายได้จาก YouTube ที่คุณทำอยู่แล้ว คือ Passive Income ที่ดีเยี่ยม ช่วยลดภาระการออมเงินก้อนในวัยเกษียณได้อย่างมาก

บทสรุป: เวลาคือสิ่งมีค่าที่สุดในการวางแผนเกษียณ

ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะเริ่มต้นวางแผนเกษียณ แต่ "ยิ่งเริ่มต้นเร็วเท่าไหร่ คุณยิ่งมีโอกาสที่จะเกษียณได้อย่างสบายใจมากเท่านั้น" ครับ พลังของดอกเบี้ยทบต้นและระยะเวลา จะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในการเดินทางสู่ชีวิตหลังเกษียณที่คุณใฝ่ฝัน

อย่ารอช้าที่จะเริ่มต้นตั้งเป้าหมายการเกษียณ และลงมือทำตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการออมเล็กๆ น้อยๆ การลงทุน หรือการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมด้านการวางแผนการเงินส่วนบุคคล เพราะอนาคตที่มั่นคง เริ่มต้นได้ที่ตัวคุณเองครับ!

    Choose :
  • OR
  • To comment

eBook ยอดนิยม