การยื่นภาษีออนไลน์: ขั้นตอนง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเอง

 

 


การยื่นภาษีออนไลน์: ขั้นตอนง่ายๆ ด้วยตัวเอง

   ในยุคดิจิทัลเช่นนี้ การวางแผนภาษีและการยื่นภาษีไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัวหรือซับซ้อนอีกต่อไปแล้วครับ กรมสรรพากรได้พัฒนาช่องทาง "การยื่นภาษีออนไลน์" ที่สะดวก รวดเร็ว และสามารถทำได้ด้วยตัวเองจากทุกที่ทุกเวลา ช่วยประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการเตรียมเอกสารหรือเดินทางไปที่สำนักงานสรรพากร

วันนี้เราจะมาแนะนำ "ขั้นตอนง่ายๆ ของการยื่นภาษีออนไลน์ด้วยตัวเอง" ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ เพื่อให้   คุณผู้ชมทุกคนสามารถจัดการเรื่องภาษีประจำปีได้อย่างราบรื่นและมั่นใจครับ

ทำไมต้องยื่นภาษีออนไลน์?

·        สะดวกสบาย: ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง

·        รวดเร็ว: กรอกข้อมูลและยื่นแบบได้รวดเร็วกว่าแบบกระดาษ

·        ลดความผิดพลาด: ระบบมีตัวช่วยคำนวณและตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น

·        ได้ภาษีคืนเร็วขึ้น: กรณีมีภาษีที่ได้คืน มักจะได้รับการพิจารณาและโอนเงินคืนเร็วกว่า

·        ขยายเวลา: ปกติจะได้รับการขยายเวลาการยื่นแบบออกไปอีก 8-9 วัน (เช่น จาก 31 มี.ค. เป็น 9 เม.ย.)

เอกสารและข้อมูลที่ต้องเตรียมก่อนยื่นภาษีออนไลน์

แม้จะยื่นออนไลน์ แต่ก็ยังคงต้องเตรียมข้อมูลและเอกสารอ้างอิงให้พร้อมครับ เพื่อความถูกต้องและรวดเร็ว

1.         ข้อมูลส่วนตัว: เลขประจำตัวประชาชน (สำหรับลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ)

2.         เอกสารแสดงรายได้:

o   หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ใบ ภ.ง.ด. 9 ทวิ): จากนายจ้าง (สำหรับเงินเดือน, โบนัส) หรือจากผู้ว่าจ้าง/ลูกค้า (สำหรับรายได้ฟรีแลนซ์ 40(2), 40(7), 40(8) ที่ถูกหัก ณ ที่จ่าย)

o   เอกสารรับรองเงินปันผล/ดอกเบี้ย: สำหรับเงินได้ 40(4)

o   เอกสารอื่นๆ ที่แสดงรายได้: เช่น สัญญาเช่า (กรณีมีรายได้ 40(5)), รายรับจากการขายของออนไลน์, รายได้จากการทำ YouTube (ของ    ) ที่ยังไม่ถูกหัก ณ ที่จ่าย

3.         เอกสารหลักฐานค่าลดหย่อนต่างๆ:

o   ใบเสร็จ/หนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันชีวิต/สุขภาพ: จากบริษัทประกัน

o   หนังสือรับรองการซื้อหน่วยลงทุน RMF/SSF/SSFX: จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)

o   หลักฐานการชำระดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อบ้าน: จากธนาคาร/สถาบันการเงิน

o   ใบเสร็จรับเงิน/ใบอนุโมทนาบัตรการบริจาค: จากหน่วยงานที่รับบริจาค

o   หลักฐานค่าลดหย่อนอื่นๆ: เช่น ค่าฝากครรภ์/คลอดบุตร, ค่าเลี้ยงดูบิดามารดา/คนพิการ (ถ้ามี)

o   ใบกำกับภาษีเต็มรูป/ใบเสร็จรับเงินจากโครงการรัฐ: เช่น ช้อปดีมีคืน (ถ้ามีในปีภาษีนั้น)

4.         ข้อมูลธนาคาร: เลขที่บัญชีธนาคาร (สำหรับกรณีขอคืนภาษี)

ขั้นตอนการยื่นภาษีออนไลน์ง่ายๆ ด้วยตัวเอง (ทีละขั้นตอน)

ขั้นตอนที่ 1: เข้าสู่เว็บไซต์กรมสรรพากร และเข้าสู่ระบบ

·        เข้าสู่เว็บไซต์กรมสรรพากร: www.rd.go.th

·        มองหาเมนู "ยื่นแบบแสดงรายการภาษี" หรือ "ยื่น ภ.ง.ด.90/91"

·        เข้าสู่ระบบ:

o   สำหรับผู้ที่เคยยื่นภาษีออนไลน์แล้ว: ใช้เลขประจำตัวประชาชน และรหัสผ่านที่ตั้งไว้

o   สำหรับผู้ที่ยื่นครั้งแรก: กด "ลงทะเบียน" และทำตามขั้นตอน (ต้องยืนยันตัวตนด้วยเบอร์โทรศัพท์ และตั้งรหัสผ่าน)

ขั้นตอนที่ 2: เลือกประเภทแบบแสดงรายการภาษี

·        ภ.ง.ด.90: สำหรับผู้ที่มีเงินได้หลายประเภท (เช่น เงินเดือน, ฟรีแลนซ์, รายได้จากการทำธุรกิจออนไลน์/YouTube ของ    )

·        ภ.ง.ด.91: สำหรับผู้ที่มีเงินได้จากเงินเดือนเพียงอย่างเดียว

ขั้นตอนที่ 3: กรอกข้อมูลส่วนตัว

·        ตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวที่ระบบดึงมาให้ (ชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่) ว่าถูกต้องหรือไม่

·        หากมีข้อมูลที่ต้องแก้ไข ให้แก้ไขให้เรียบร้อย

ขั้นตอนที่ 4: กรอกข้อมูล "เงินได้"

·        เลือกประเภทเงินได้ของคุณตามมาตรา 40(1) ถึง 40(8)

·        กรอกรายได้แต่ละประเภทตามที่ระบุในหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด.9 ทวิ) หรือรายได้ที่คุณรวบรวมมา

·        เงินได้ 40(8) (เช่น รายได้ฟรีแลนซ์, ขายของออนไลน์, YouTube ของ    ): คุณสามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายแบบ "เหมา" (เช่น 60%) หรือ "หักตามจริง" ได้ ซึ่งระบบจะช่วยคำนวณให้เลือกอัตโนมัติว่าแบบไหนคุ้มกว่า (แนะนำให้เลือกตามที่ระบบคำนวณว่าคุ้มกว่า)

·        กรอก "ภาษีหัก ณ ที่จ่าย" (ถ้ามี) ซึ่งระบุในใบ ภ.ง.ด.9 ทวิ

ขั้นตอนที่ 5: กรอกข้อมูล "ค่าลดหย่อน"

·        ไล่กรอกค่าลดหย่อนตามหมวดหมู่ต่างๆ ที่คุณมีสิทธิ์และมีเอกสารหลักฐาน

·        ระบบจะสรุปยอดรวมค่าลดหย่อนให้คุณ

·        สำคัญ: เก็บเอกสารหลักฐานค่าลดหย่อนทั้งหมดไว้ให้ดี เผื่อกรณีสรรพากรเรียกตรวจสอบ

ขั้นตอนที่ 6: ตรวจสอบสรุปยอดภาษี

·        ระบบจะคำนวณเงินได้สุทธิ และภาษีที่ต้องชำระ หรือภาษีที่ได้คืนให้โดยอัตโนมัติ

·        ตรวจสอบความถูกต้องของตัวเลขทั้งหมดอีกครั้ง

ขั้นตอนที่ 7: ยืนยันการยื่นแบบ

·        หากข้อมูลถูกต้องครบถ้วน ให้กด "ยืนยันการยื่นแบบ"

·        ระบบจะให้คุณตรวจสอบข้อมูลครั้งสุดท้ายก่อนยืนยัน

·        เมื่อยืนยันแล้ว ถือว่าคุณได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเรียบร้อยแล้ว

ขั้นตอนที่ 8: ชำระภาษี (ถ้ามี) หรือรอรับภาษีคืน (ถ้าได้คืน)

·        กรณีต้องชำระภาษี:

o   เลือกช่องทางการชำระเงิน (เช่น QR Code, Mobile Banking, Internet Banking, บัตรเครดิต, ATM, เคาน์เตอร์ธนาคาร)

o   สามารถเลือก "ผ่อนชำระ" ได้ หากยอดภาษีที่ต้องชำระมีจำนวนตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป โดยแบ่งชำระได้ 3 งวด งวดละเท่าๆ กัน โดยไม่มีดอกเบี้ย (ต้องยื่นคำขอผ่อนชำระ)

·        กรณีได้ภาษีคืน:

o   ระบบจะแจ้งให้คุณทราบว่าคุณมีภาษีที่ได้คืน

o   เงินภาษีคืนจะถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารที่คุณผูกกับระบบพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประชาชน (ในชื่อของคุณเอง) หรือบางกรณีอาจเป็นการขอคืนเข้าบัญชีธนาคารโดยตรงตามที่ระบุ

สิ่งที่ควรระวังเพิ่มเติมในการยื่นภาษีออนไลน์

·        ห้ามลืมยื่นแบบ: แม้ไม่มีภาษีที่ต้องจ่าย แต่หากมีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนด ก็ยังคงต้องยื่นแบบครับ

·        เก็บเอกสารให้ดี: เอกสารต่างๆ ที่ใช้ในการยื่นภาษี (ใบรับรองการหัก ณ ที่จ่าย, ใบเสร็จค่าลดหย่อน) ควรเก็บรักษาไว้ไม่ต่ำกว่า 5 ปี เผื่อกรณีสรรพากรเรียกตรวจสอบ

·        ข้อมูลพร้อมเพย์: เพื่อความรวดเร็วในการรับเงินคืน ควรผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชนไว้

·        อย่าเชื่อข้อมูลผิดๆ: หากมีข้อสงสัย ให้สอบถามจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้เท่านั้น เช่น เว็บไซต์กรมสรรพากร หรือคอลเซ็นเตอร์สรรพากร 1161

บทสรุป: ยื่นภาษีออนไลน์ง่ายกว่าที่คิด!

   การยื่นภาษีออนไลน์ไม่ใช่เรื่องยากเลยใช่ไหมครับ? เพียงแค่เตรียมเอกสารให้พร้อม และทำตามขั้นตอนที่แนะนำ คุณก็จะสามารถจัดการเรื่องภาษีประจำปีของคุณได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และแม่นยำ

อย่าปล่อยให้เรื่องภาษีเป็นเรื่องน่าปวดหัวอีกต่อไปนะครับ เมื่อเราทำถูกต้อง ก็จะสบายใจ และยังได้รับสิทธิ์ประโยชน์ต่างๆ อย่างเต็มที่ด้วยครับ! ขอให้การยื่นภาษีของคุณราบรื่นนะครับ

    Choose :
  • OR
  • To comment

eBook ยอดนิยม